ตอนจะบวชก็แทบจะไม่รอดอยู่แล้ว เมื่อจะสึกก็ดูเหมือนอาจจะไม่รอดอีก ตามที่ตัวอย่างยั่วน้ำลายของ “พี่นาค 2” บอกมาครับ ซึ่งเป็นตัวอย่างยั่วน้ำลายจริงๆ เพราะสั้น กระชับ ไม่เผยเนื้อเรื่องของหนังเท่าไหร่ แค่แนวความคิดว่าหนังจะเกี่ยวกับอะไร และบอกวันฉายออกมา

เรื่องราวจะเล่าต่อจากภาคที่แล้วที่หลังจากที่โหน่งอยากมาบวชพระเพื่อล้างซวย ส่วนบอลลูนกับเฟิร์สก็มาบวชเพื่อแก้บน โดยไม่รู้ก่อนว่าวัดที่จะมาบวชนั้น ไม่มีนาคองค์ไหนได้บวชจนเป็นพระเลยสักรายเพราะถูกผีนาคที่สิงอยู่ในวัดนี้ฆ่าตายก่อนทุกองค์ ทั้งสามหาทางล้างคำสาปจนได้ แต่แล้วเมื่อบอลลูนกับเฟิร์สจะสึกก็ปรากฏผีนาคตนใหม่ที่ออกมาขู่ว่า “ถ้ามึงสึก มึงตาย”

ออกัส วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์ กลับมารับบทเป็นพระโหน่ง, วิทวัส รัตนบุญบารมี เป็นพระบอลลูน และ เจมส์ ภูริพรรธน์ เวชวงศาเตชาวัชร์ เป็นพระเฟิร์ส สมทบด้วยคุณพัทธ์ พิเชษฐ์วรวุฒิ, อธิวัตน์ แสงเทียน, และ พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร กำกับโดยไมค์ ภณธฤต โชติกฤษฎาโสภณ มีกำหนดฉาย 20 กุมภาพันธ์นี้

หลังจากที่มีการปล่อยภาพนิ่งออกมาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว และโหมประชาสัมพันธ์อย่างหนักในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ ตัวอย่างแรกของ Classic Again ซึ่งเป็นการนำหนัง The Classic ของเกาหลีใต้กลับมาสร้างใหม่ ได้มีกำหนดปล่อยตัวอย่างแรกแล้วครับ

ทีมนักแสดงและผู้สร้างหนังได้มีการจัดแถลงข่าวในวันอังคารที่ 7 มกราคม 2563 ณ ลานอินฟินิซิตี้ ชั้น 5 พารากอน ซีนีเพล็กซ์ เวลา 17.00 น. ครับ และจะมีการฉายตัวอย่างให้ชมในงาน จากนั้นก็จะปล่อยออนไลน์ให้ผู้ที่ไม่ได้ไปร่วมงานได้ชม ตัวอย่างได้ฉายในโรงไปก่อนหน้านี้แล้วตั้งแต่ช่วงสิ้นปีครับ ซึ่งใครที่ไปดูหนังในโรงช่วงนั้นก็น่าจะได้ชมกันไปก่อนแล้ว

ต้นฉบับเล่าเรื่องราวของหญิงสาวที่พบจดหมายรักที่แม่ของเธอได้รับจากชายคนรักที่ทั้งคู่ไม่อาจได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ทำให้เธอได้หันกลับมาทบทวนเรื่องราวความรักของตัวเธอเองกับชายหนุ่มที่เธอแอบมีใจให้ ซอนเยจินนั้นรับบทเป็นทั้งแม่และลูกสาวในหนังเรื่องนี้ ซึ่งทำเงินไปกว่า 6.9 ล้านเหรียญ ตอนที่ออกฉายในปี 2003 จนทำให้เธอกลายเป็นนักแสดงดังของเอเชีย

สำหรับฉบับสร้างใหม่นี้ มีชื่อไทยว่า “จดหมาย สายฝน ร่มวิเศษ” ได้นิว ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ จากซีรี่ส์ “Kiss Me Again จูบให้ได้ถ้านายแน่จริง” และ “Dark Blue Kiss จูบสุดท้ายเพื่อนายคนเดียว” กับ รัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตร จากละคร “ด้ายแดง” มารับบทนำ กำกับโดยธัชพงศ์ ศุภศรี ผู้ช่วยผู้กำกับจาก “สารวัตรหมาบ้า” และ “ฉลุย แตะขอบฟ้า” ควบคุมการสร้างโดยไบสันไอเดียของม.ร.ว. เฉลิมชาตรี ยุคล และอำนวยการสร้างและจัดจำหน่ายโดยซีเจ เมเจอร์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ที่ได้นำหนังเกาหลีมาสร้างใหม่เป็นฉบับไทยออกฉายไปแล้ว 2 เรื่อง คือ “20 ใหม่ ยูเทิร์นวัย หัวใจรีเทิร์น” รีเมกจาก Miss Granny และ “ดิวไปด้วยกันนะ” รีเมกจาก Bungee Jumping of Their Own

หนังมีกำหนดฉาย 6 กุมภาพันธ์นี้ครับ

“แต่ฉันก็จะลองรักษาความรักของตัวเองไว้ ในแบบของฉันเอง” ตัวเอกของหนัง Classic Again จดหมาย สายฝน ร่มวิเศษ บอก ซึ่งเป็นการนำหนังรักอันโด่งดังของเกาหลีใต้ The Classic คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต มาสร้างใหม่เป็นแบบฉบับหนังรักของไทยเอง แต่จะเป็นฉบับที่สร้างความพึงพอใจได้แค่ไหน ตัวอย่างแรกของหนังเผยออกมาแล้วครับ

หนังเป็นเรื่องราวของหญิงสาวที่พบจดหมายรักที่แม่ของเธอได้รับจากชายคนรักที่ทั้งคู่ไม่อาจได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ทำให้เธอได้หันกลับมาทบทวนเรื่องราวความรักของตัวเธอเองกับชายหนุ่มที่เธอแอบมีใจให้

รัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตร จากละคร “ด้ายแดง” มารับบทนำในฉบับนี้ที่เป็นบทที่สร้างชื่อให้ซอนเยจินมาก่อน และได้นิว ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ จากซีรี่ส์ “Kiss Me Again จูบให้ได้ถ้านายแน่จริง” และ “Dark Blue Kiss จูบสุดท้ายเพื่อนายคนเดียว” มารับบทเดียวกับที่โจซึงอูเคยแสดงไว้

หนังกำกับโดยธัชพงศ์ ศุภศรี ผู้ช่วยผู้กำกับจาก “สารวัตรหมาบ้า” และ “ฉลุย แตะขอบฟ้า” ควบคุมการสร้างโดยไบสันไอเดียของม.ร.ว. เฉลิมชาตรี ยุคล และอำนวยการสร้างและจัดจำหน่ายโดยซีเจ เมเจอร์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ที่ได้นำหนังเกาหลีมาสร้างใหม่เป็นฉบับไทยออกฉายไปแล้ว 2 เรื่อง คือ “20 ใหม่ ยูเทิร์นวัย หัวใจรีเทิร์น” รีเมกจาก Miss Granny และ “ดิวไปด้วยกันนะ” รีเมกจาก Bungee Jumping of Their Own

หนังมีกำหนดฉาย 6 กุมภาพันธ์นี้ครับ

“เตรียมพบกับโลกของคนทรงอีกด้านที่เราอาจไม่เคยรู้จัก โลกที่คนตายพยายามติดต่อกับคนเป็น โลกที่คนเป็นพยายามหลีกหนีให้พ้นจากคนตาย โลกที่ความลับของคนตายกำลังจะถูกเปิดเผย” นั่นเป็นคำโปรยจากหนัง “คน ทรง ผี” (Waning Moon) หนังไทยสยองขวัญเรื่องใหม่ที่เพิ่งมีตัวอย่างออกมาครับ

เรายังมีข้อมูลน้อยมากเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ แต่ตัวอย่างแรกที่แม้เป็นงานสร้างเล็กๆ ก็ทำออกมาได้น่าสนใจดี ข้อมูลเบื้องต้นจาก @deknang ที่แนะนำหนังเรื่องนี้บนทวิตเตอร์ให้รับทราบก่อน บอกว่า “เป็นเรื่องราวความแค้นระหว่างคนตายและคนเป็น ที่ความลับถูกเปิดเผยผ่านคนทรง ก็ไม่แน่ว่าจะเป็นความจริงที่เชื่อได้ทั้งหมด” ฟังดูมีกลิ่นอายของ “ราโชมอน” ผสมกับ “สิงสู่” นะครับ

หนังเป็นผลงานของบริษัทหนังใหม่ชื่อทำสตูดิโอ (Tham Studio) และนักทำหนังหน้าใหม่ อาทิตย และ ธีรคหะ อาริยวงศ์ษา จากบทของอาทิตย อริยวงศ์ษา โดยมีนักแสดงนำได้แก่สุชาดา พูนพัฒนสุข (เพื่อน..ที่ระลึก), ลัทธ์กมล ปิ่นโรจน์กีรติ (อวสานโลกสวย), วรพล ตะเภาพงษ์ (Soulmates: The Series) และ วิกาวี แซ่เบ๊

หนังยังไม่มีกำหนดฉายครับ ข้อมูลเพิ่มเติมของหนังติดตามได้ที่เฟซบุกทางการครับ

นอกจาก Classic Again ของซีเจเมเจอร์แล้ว ในกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ยังมีหนังไทยที่เป็นหนังรักอีกเรื่องคือ “Low Season สุขสันต์วันโสด” ของสหมงคลฟิล์มด้วยครับ แต่ทั้งสองมีโทนและบรรยากาศแตกต่างกันชัดเจน ซึ่งขณะที่ Classic Again เป็นหนังรักหวานซึ้งที่นำหนังเกาหลีใต้มาสร้างใหม่ “Low Season สุขสันต์วันโสด” เป็นหนังรักแบบอารมณ์ดีที่แฝงด้วยเรื่องผีๆ ด้วยครับ

ตามเรื่องย่อทางการที่ส่งมา เป็นเรื่องราวของหลิน (พลอยไพลิน ตั้งประภาพร) ที่กลายเป็นสาวโสดเพราะเห็นผี เธอจึงได้เดินทางไปกิ่วแม่ปานเมื่อรักษาแผลใจ ทั้งนี้เพราะเป็นที่ที่เธอเคยพบรักมาก่อนและคิดว่าการไปสถานที่ที่สร้างความรักให้เธอจะช่วยให้เธอลืมความรักได้ แล้วเธอก็ได้พบกับนักเขียนบทหนังชื่อพุธ (มาริโอ้ เมอเร่อ) ที่รักคุดและกำลังหาแรงบันดาลใจในการเขียนบทหนังผีเรื่องใหม่อยู่พอดี ทั้งคู่จึงได้ออกผจญภัยร่วมกันในช่วงที่ชีวิตรักกำลังตกต่ำทั้งคู่ และยังไปพบตัวละครรักคุดอีกหลายคนซึ่งรับบทโดยศกลรัตน์ วรอุไร, ณฉัตร จันทพันธ์, ศรีพรรณ ชื่นชมบูรณ์ และ อัครินทร์ อัครนิธิเมธรัฐ ครับ

นฤบดี เวชกรรม ซึ่งเคยกำกับมาริโอ้ใน “สาระแนสิบล้อ” เป็นผู้รับหน้าที่กำกับหนังเรื่องนี้ครับ เข้าฉาย 13 กุมภาพันธ์นี้

อ่านเรื่องย่อ พร้อมดูภาพกับใบปิดได้ที่ด้านล่างนี้ครับ

เคยตั้งคำถามกับตัวเองไหม ว่าทำไมเราถึง ‘โสด’

บางคนโสดเพราะขี้บ่น

บางคนโสดเพราะเจ้าชู้

บางคนโสดเพราะอินดี้

แต่กับ หลิน (พลอย พลอยไพลิน ตั้งประภาพร) เธอโสดเพราะ “เห็นผี”

เมื่อหัวใจโดนเทก็เลยเซไปหาทางเยียวยา…

“เริ่มที่ไหนจบที่นั่น” นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ “หลิน” ขอลุยเดี่ยวจัดทริปรักษาแผลใจ ณ กิ่วแม่ปาน จนได้เจอกับ “พุธ” (มาริโอ้ เมาเร่อ) นักเขียนบทไอเดียตัน ที่ทั้งรักคุด-งานสะดุดจนต้องออกมาหาแรงบันดาลใจเพื่อโปรเจกต์หนังผีเรื่องใหม่ของเขา ที่จำเป็นต้องใช้ “คนเห็นผี” มาช่วย

การผจญภัยในช่วงชีวิตโลว์ ๆ ของทั้งสองจึงเริ่มขึ้น กลางบรรยากาศหุบเขาในโฮมสเตย์รวมพลคน “เพิ่งโสด” แบบไม่ได้นัดหมาย ทั้ง นุ่น (ศกลรัตน์ วรอุไร), วิทยา (ณฉัตร จันทพันธ์), พี่อ้อม (ศรีพรรณ ชื่นชมบูรณ์), พี่โอม (อัครินทร์ อัครนิธิเมธรัฐ) ที่พวกเขาจะขอมาเปลี่ยนช่วงฤดูโลว์ให้กลายเป็นฤดูเรา จะเปลี่ยนความเศร้าให้กลายเป็นความรัก…เตรียมกระเป๋าให้พร้อมแล้วออกเดินทางไปพัก (ใจ) ด้วยกัน #LowSeason #สุขสันต์วันโสด 13 กุมภาพันธ์นี้ ทุกโรงภาพยนตร์

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของหนัง “ไทบ้านxBNK48 จากใจผู้สาวคนนี้” ได้ส่งเรื่องย่อทางการ พร้อมรายชื่อนักแสดงและทีมงานเบื้องหลังมากให้ครับ ซึ่งอย่างแรกเลยก็คือชื่อเรื่องของหนังนั้นยาวกว่าที่เราเข้าใจในทีแรก มีคำว่า “จากใจผู้สาวคนนี้” ต่อมาด้วย ส่วนเรื่องย่อทางการนั้นก็คล้ายกับที่เรารับรู้มาก่อนหน้านี้ครับ เพียงแต่ให้เราได้รับทราบเหตุผลว่าทำไมเหล่าไอดอลสาวถึงต้องไปฝึกร้องเพลงหมอรำกัน ดังนี้ครับ:

“เมื่อกระแสดนตรีเปลี่ยนทาง เพลงหมอลำลูกทุ่งอีสานครองตลาดจนทำให้ BNK48 ต้องปรับตัวด้วยการเปิดโปรเจกต์ลับไปทำเพลงกับ ก้อง ห้วยไร่ ถึงจังหวัดศรีสะเกษ เนย, โมบายล์, แก้ว, ตาหวาน, น้ำหนึ่ง, น้ำใส, ปูเป้ และไข่มุก จึงต้องปรับตัวเพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมไทบ้านโดยมี จาลอด ออนเดอะร๊อค มาช่วยเป็นพี่เลี้ยงด้วยอีกแรง เมื่อความน่ารักสดใสของสาวไอดอลมาเจอกับความซื่อความม่วนซื่นแบบโลคอล ภารกิจดนตรีนี้จึงนำพามิตรภาพแสนชุลมุนที่อบอุ่นจนฝุ่นตลบจากอีสานให้คนดูได้เบิกบานกันทั่วไทย”

หนังเป็นผลงานกำกับของสุรศักดิ์ ป้องศร และ ธิติ ศรีนวล ส่วนทีมเขียนบทนั้นมีด้วยกันถึง 4 คน ประกอบไปด้วยศุภณัฐ นามวงศ์, สุรศักดิ์ ป้องศร, บุญโชค ศรีคำ และ ธิติ ศรีนวล โดยธิติ ศรีนวล ยังรับหน้าที่ควบคุมงานสร้างร่วมกับอวิรุทธ์ อรรคบุตร ด้วย

นักแสดงนำของหนังได้แก่ ณัฐวุฒิ แสนยะบุตร, สิริอมร อ่อนคูณ, ธนาดล บัวระบัตร, ธันวาพร นาสมบัตร, อัครเดช ยอดจำปา, กานต์ธีรา วัชรทัศนกุล, ณัฐรุจา ชุติวรรณโสภณ, วรัทยา ดีสมเลิศ, พิชญาภา นาถา, จิรดาภา อินทจักร, อิสราภา ธวัชภักดี, พิมรภัส ผดุงวัฒนะโชค และ มิลิน ดอกเทียน

หนังเป็นผลงานร่วมกันสร้างของเซิ้งโปรดักชั่นแอนด์ออร์แกไนเซอร์จำกัด กับ บริษัท บีเอ็นเค48 ออฟฟิศ จำกัด โดยมีสหมงคลฟิล์มฯ รับหน้าที่จัดจำหน่าย มีกำหนดฉาย 23 มกราคมนี้ครับ

ไทเมเจอร์ ค่ายน้องใหม่ จากผู้ที่คร่ำหวอดในวงการมายาวนาน วิสูตร พูลวรลักษณ์ แห่งไทเอ็นเตอร์เทนเมนท์ กับ วิชา พูลวรลักษณ์ แห่งเมเจอร์ ซินีเพล็กซ์ กรุ๊ป ได้บวงสรวงเปิดกล้องหนังเรื่องแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ชื่อ My Boss is a Serial Killer ซึ่งได้ก้อง สหรัถ สังคปรีชา ที่เคยรับบทนำในภาพยนตร์เป็นครั้งแรกด้วยผลงานของไทเอ็นเตอร์เทนเมนท์ เรื่อง “คู่แท้ 2 โลก” มาเป็นผู้รับบทนำครับ

หนังยังมีนักแสดงดังมาสมทบอีกคับคั่ง ได้แก่ไอซ์ ปรีชญา พงษ์ธนานิกร, มุกดา นรินทร์รักษ์, ปราโมทย์ ปาทาน, พงศธง จงวิลาศ, พอวิไล อภิรัชฎาพร และ สัณหณัฐ ทิราชีพ ในเรื่องราวขย่าขวัญปนตลกว่าด้วยแก๊งหนุ่มสาวออฟฟิศที่บังเอิญไปรู้ว่าเจ้านายของพวกเขาเป็นอดีตฆาตกรต่อเนื่องที่ยังลอยนวลอยู่

หนังเป็นผลงานกำกับร่วมกันของศรณ์พัฒน์ ปราการะนันท์ อาจารย์สอนเขียนบทจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพฯ และ ภูวนิตย์ ผลดี จาก “โอเวอร์ไซส์..ทลายพุง” หนังน่าจะได้เข้าฉายในปีนี้ครับ

ที่มา: Tai Major

ไฟว์สตาร์ฯ ได้ปล่อยใบปิดหลักที่จะใช้ติดตามโรงภาพยนตร์ต่างๆ ของ “พี่นาค 2” ออกมาครับ ที่สะท้อนโทนหนังครบถ้วนว่าเป็นหนังสยองขวัญปนตลก เอานักแสดงนำของหนังทุกคนขึ้นมาอยู่บนใบปิดด้วยฉากหลังน่ากลัวที่เป็นวัด

ในภาคนี้ ตัวละครจากภาคที่แล้วต้องเผชิญผีพี่นาคตัวใหม่ที่ออกมาขู่ว่า “ถ้ามึงสึก มึงตาย” เมื่อบอลลูนกับเฟิร์สจะสึก ออกัส วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์ กลับมารับบทเป็นพระโหน่ง, วิทวัส รัตนบุญบารมี เป็นพระบอลลูน และ เจมส์ ภูริพรรธน์ เวชวงศาเตชาวัชร์ เป็นพระเฟิร์ส โดยมีธามไท แพลงศิลป์ รับบทเป็นผีพี่นาค สมทบด้วยคุณพัทธ์ พิเชษฐ์วรวุฒิ, อธิวัตน์ แสงเทียน, และ พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร กำกับโดยไมค์ ภณธฤต โชติกฤษฎาโสภณ มีกำหนดฉาย 20 กุมภาพันธ์นี้

สิ่งที่หนังรักโรแมนติกแทบทุกเรื่องต้องมีก็คือเพลงประกอบของหนังครับ และหนัง Class Again หรือ “จดหมาย สายฝน ร่มวิเศษ” ที่ดัดแปลงจากหนังเกาหลีเรื่อง Classic คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต ก็คือเพลง “หนึ่งความทรงจำ” ที่ขับร้องโดยวงมีน, ดนตรีโดยเทิดศักดิ์ จันทร์ปาน ผู้ที่เคยร่วมงานกับเจบ์ โชว์ ใน “Secret รักเรากัลปาวสาน” และดนตรีประกอบสุดเข้มข้นของละคร “เลือดข้นคนจาง” และแต่งเนื้อร้องโดย สุรชัย พรพิมานแมน ที่เคยแต่งเพลงให้บิ๊กแอส และบอดี้สแลม ครับ เป็นการนำเพลงจากฉบับเกาหลี “Me to You, You to Me” มาทำใหม่เป็นฉบับไทยเช่นเดียวกับตัวหนัง

ตัวหนังเองยังได้ปล่อยตัวอย่างฉบับเต็มออกมาเมื่อสัปดาห์ก่อนด้วยครับ ซึ่งผมไม่ว่างเอามาลงให้ดูในช่วงนั้นเพราะติดงาน ใครที่ยังไม่ได้ชมก็ลองชมกันดู หนังจะเข้าฉายแล้วสุดสัปดาห์นี้ครับ

หนังเป็นเรื่องราวของหญิงสาวที่พบจดหมายรักที่แม่ของเธอได้รับจากชายคนรักที่ทั้งคู่ไม่อาจได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ทำให้เธอได้หันกลับมาทบทวนเรื่องราวความรักของตัวเธอเองกับชายหนุ่มที่เธอแอบมีใจให้

รัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตร จากละคร “ด้ายแดง” มารับบทนำในฉบับนี้ที่เป็นบทที่สร้างชื่อให้ซอนเยจินมาก่อน และได้นิว ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ จากซีรี่ส์ “Kiss Me Again จูบให้ได้ถ้านายแน่จริง” และ “Dark Blue Kiss จูบสุดท้ายเพื่อนายคนเดียว” มารับบทเดียวกับที่โจซึงอูเคยแสดงไว้

หนังกำกับโดยธัชพงศ์ ศุภศรี ผู้ช่วยผู้กำกับจาก “สารวัตรหมาบ้า” และ “ฉลุย แตะขอบฟ้า” ควบคุมการสร้างโดยไบสันไอเดียของม.ร.ว. เฉลิมชาตรี ยุคล และอำนวยการสร้างและจัดจำหน่ายโดยซีเจ เมเจอร์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ที่ได้นำหนังเกาหลีมาสร้างใหม่เป็นฉบับไทยออกฉายไปแล้ว 2 เรื่อง คือ “20 ใหม่ ยูเทิร์นวัย หัวใจรีเทิร์น” รีเมกจาก Miss Granny และ “ดิวไปด้วยกันนะ” รีเมกจาก Bungee Jumping of Their Own

หลังจากที่หนังในจักรวาล “หอแต๋วแตก” มีโก๊ะตี๋ อารามบอย รับบทเป็นตัวละครแพนเค้กมาโดยตลอด ถึงคราวที่แพนเค้กตัวจริง เขมนิจ จามิกรณ์ จะมารับบทเป็นแพนเค้กในหนังบ้าง แต่เป็นเรื่อง “พจมาร์สว่างคาตา” ที่น่าจะเป็นจักรวาลหนังใหม่ของพชร์ อานนท์ ครับ

นักแสดงหญิงผู้เคยมีผลงานออกฉายในโรงภาพยนตร์เรื่อง “ป้าแฮปปี้ she ท่าเยอะ” และมีผลงานในปีที่ผ่านมาที่เป็นที่กล่าวขวัญอย่างมากคือซีรี่ส์ “Voice สัมผัสเสียงมรณะ” บอกในคลิปแนะนำตัวของหนังครับว่า เธอจะรับบทเป็นถึง 2 ตัวละครเลย ทั้งพจมาน และ แพนเค้ก พร้อมกับเล่าบรรยากาศการถ่ายทำว่าทำให้เธอหยุดหัวเราะไม่ได้เลย

“พจมาร์ สว่างคาตา” เป็นการเอาโครงเรื่องของ “บ้านทรายทอง” มาใช้เป็นหนังล้อเลียนครับ เป็นหนังที่จัดอยู่ในพวกเดียวกับ Scary Movies หรือ The Naked Gun ก็ว่าได้ ด้วยมุกตลกในแบบของตัวเองที่แซะตั้งแต่วงการบันเทิงยันทุกเรื่องที่เป็นข่าวดัง หนังยังมีนักแสดงสมทบได้แก่แน็ก ชาลี ไตรรัตน์, จตุรงค์ พลบูรณ์, เอกชัย ศรีวิชัย, ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์, วีรดิษฐ์ ศรีมาลัย ครับ มีกำหนดฉาย 2 เมษายนนี้

หนัง Classic Again จดหมาย สายฝน ร่มวิเศษ ที่ดัดแปลงจากหนังรักเกาหลีสุดซาบซึ้งเรื่อง Classic  คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต ได้ฉายรอบปฐมทัศน์อย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยไปแล้วเมื่อค่ำวันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาครับ และความเห็นส่วนหนึ่งจากบรรดาเพจหนังและนักวิจารณ์ออนไลน์ก็ได้ทะยอยเข้ามาบ้างแล้ว เราได้นำส่วนหนึ่งของความเห็นเหล่านั้นมาเล่าให้ฟังสำหรับผู้ที่อยากรู้ความเห็นของผู้ที่ชมก่อนเพื่อนำไปตัดสินใจในการเลือกชมครับ

ความเห็นน่าจะเรียกได้ว่าก้ำกึ่งครับ เพราะมีทั้งแบบชอบมาก ชอบปานกลาง เอาตัวรอดไปได้ และมีทั้งชอบกับไม่ชอบในความเห็นเดียว นักแสดงที่ได้คำชมเป็นส่วนใหญ่คือ รัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตร ผู้เป็นนางเอกของเรื่อง

ในแง่งานสร้าง งานภาพนั้นได้รับคำชมว่าสวยงาม ส่วนในแง่การเล่าเรื่องมีตั้งแต่คำว่า “น้ำตาไหล”, “โรแมนติกมาก”, “ซึ้ง”, “ลงตัว”, “หวานจนมดขึ้น”, “อิหยังวะ”, “บางส่วนเชยไปหน่อย”, “ประดิษฐ์” เป็นต้น แต่เมื่อเทียบกับต้นฉบับแล้ว ส่วนใหญ่บอกว่ายังทำสู้ไม่ได้ หรืออย่าเทียบกับต้นฉบับ หรือเดินตามต้นฉบับเป๊ะๆ ครับ

หนังกำกับโดยธัชพงศ์ ศุภศรี ผู้ช่วยผู้กำกับจาก “สารวัตรหมาบ้า” และ “ฉลุย แตะขอบฟ้า” ควบคุมการสร้างโดยไบสันไอเดียของม.ร.ว. เฉลิมชาตรี ยุคล และอำนวยการสร้างและจัดจำหน่ายโดยซีเจ เมเจอร์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ที่ได้นำหนังเกาหลีมาสร้างใหม่เป็นฉบับไทยออกฉายไปแล้ว 2 เรื่อง คือ “20 ใหม่ ยูเทิร์นวัย หัวใจรีเทิร์น” รีเมกจาก Miss Granny และ “ดิวไปด้วยกันนะ” รีเมกจาก Bungee Jumping of Their Own

“Classic Again” จดหมาย สายฝน ร่มวิเศษ เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติก ที่ถ่ายทอดเรื่องราวความรักของคนสองยุคสมัย เริ่มจาก “โบต้า” (รัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตร) สาวมหาลัยวัยใส ที่แอบหลงรัก “นน” (สุทธิรักษ์ ทรัพย์วิจิตร) ชายหนุ่มหน้าตาดีในมหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่เธอไม่อาจบอกความในใจครั้งนี้กับเขาได้เพราะเพื่อนสนิทของเธอก็ชอบผู้ชายคนนี้เช่นกัน  จนกระทั่งวันหนึ่งเธอได้ค้นพบกล่องลับของคุณแม่ ที่บรรจุไปด้วยจดหมายรักของแม่เธอในสมัยยังสาวที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกที่อัดแน่นไม่มีวันลืมเลือนระหว่างหญิงสาว “ดาหลา” (รัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตร) และชายหนุ่มบ้านนอกชื่อ “ขจร” (ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ) โบต้าเริ่มอ่านทุกตัวอักษรในจดหมายอย่างตั้งใจ และวันนั้นเองเธอจึงได้รับรู้เรื่องราวความรักครั้งแรกของแม่กับชายหนุ่มในความทรงจำ ทุกความรู้สึกถูกถ่ายทอดออกมาผ่านจดหมาย ความรักที่ต้องแอบซ่อนไว้ในอดีตของแม่เธอ ไม่ต่างจากเธอในปัจจุบันที่แอบชอบผู้ชายคนหนึ่งแถมยังเป็นคนเดียวกับเพื่อนสนิท โบต้าจะตัดสินใจอย่างไรกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้ ประวัติศาสตร์ความรักของเธอจะซ้ำรอยกับแม่เธอหรือไม่ มาร่วม “เปิดกล่องความทรงจำไปกับรักครั้งแรก” พร้อม ๆ กัน 6 กุมภาพันธ์นี้ ในโรงภาพยนตร์

ด้านล่างนี้คือความเห็นจากผู้ชมครับ

นี่อาจเป็นการส่งสัญญาณของสถาบันศิลปะและวิทยาการด้านภาพยนตร์เพื่อบอกว่าทิศทางในปีนี้ของรางวัลออสการ์คือการเป็นรางวัลสำหรับวงการภาพยนตร์ทั่วโลก ไม่ใช่แค่ในอเมริกาครับ เพราะไม่เพียงจากการที่ Parasite ได้ของเกาหลีใต้ได้เข้าชิงถึง 6 สาขา และมีหนังจากสเปนอย่าง Pain and Glory เข้าชิงในสาขานักแสดงนำชายด้วย ในส่วนของการแสดงก็จะมีการรวมพลศิลปินจากทั่วโลกมาร่วมในการแสดงชุด “Into the Unknown” ของหนัง Frozen 2 ซึ่งได้เข้าชิงในสาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ปีนี้

การรวมพลศิลปินทั่วโลกดังกล่าวก็คือการนำนักแสดงผู้ให้เสียงเป็นเอลซ่าจากเดนมาร์ก, เยอรมัน, ญี่ปุ่น, ละตินอเมริกา, นอร์เวย์, โปแลนด์, รัสเซีย, สเปน และไทย มาร่วมขึ้นเวทีแสดงกับไอดินา เมนเซล กับ ออโรร่า ผู้ให้เสียงตัวละครในฉบับดั้งเดิม ซึ่งผู้ที่ให้เสียงเอลซาในฉบับของไทยก็คือแก้ม วิชญาณี เปียกลิ่น ครับ เธอจะได้ไปขึ้นร่วมเวทีออสการ์เพื่อร่วมแสดงในเพลงนี้

แต่ “Into the Unknown” จะได้รางวัลออสการ์กลับอาณาจักรแอเรนเดลล์ไปหรือไม่ ก็คงต้องฝ่าด่านผู้เข้าชิงอย่าง “I Can’t Let You Throw Yourself Away” จาก Toy Story 4, “I’m Gonna Love Me Again” จาก Rocketman,  “I’m Standing With You” จาก Breakthrough และ “Stand Up” จาก Harriet เสียก่อน แต่แฟนๆ ของคุณแก้มก็รอให้กำลังใจเธอได้ผ่านการชมการถ่ายทอดสดในเช้าวันจันทร์ที่จะถึงนี้ ตามเวลาของบ้านเราครับ และคุณอาจซ้อมร้องเพลงรอไปก่อนจากฉบับภาษาไทยที่เรานำเอามาแนะนำที่นี่ครับ

หลังจากประสบความสำเร็จบนเวทีออสการ์ด้วยหนังเกาหลีใต้ Parasite ในปีนี้ นีออน บริษัทซึ่งจัดจำหน่ายหนังนอกกระแสในอเมริกาเหนือก็เตรียมดันหนังเรื่องอื่นต่อ หนึ่งในนั้นก็คือ Memoria ของผู้กำกับอภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล ที่จะออกฉายในปีนี้ครับ คาดกันว่าน่าจะเปิดตัวที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ก่อนในเดือนพฤษภาคม แล้วเข้าฉายในสหรัฐช่วงปลายปีเหมือนกันครับ ตอนนี้ ภาพชุดใหม่ของหนังได้เผยออกมาที่เว็บข่าวหนังของฝรั่งเศส La Tempestad (via The Film Stage)

ภาพชุดใหม่นี้เน้นไปที่ตัวเอกของเรื่องที่รับบทโดยทิลดา สวินตัน ซึ่งอภิชาติพงศ์เล่าในการให้สัมภาษณ์ของเว็บดังกล่าวว่า “เราจะได้เห็นเธอเดินไปมาเยอะมากเหมือนผี ผมเขียนบทหนังเรื่องนี้โดยนึกถึงเธออยู่ในใจเพราะรู้ว่าเธอเป็นนักแสดงที่ไม่จำเป็นต้องมีคำอธิบายใดๆ ความจริงแล้ว เป็นเธอต่างหากที่แสดงตัวละครนี้ให้ผมดู เป็นประสบการณ์ที่พิเศษมากและผมก็ชื่นชอบมากๆ”

ขณะที่ Memoria ถ่ายทำที่โคลอมเบีย ผลงานเรื่องถัดไปของอภิชาติพงศ์อาจไปที่เม็กซิโกครับ หนังยังมีนักแสดงสมทบได้แก่ ฌานน์ บาลิบาร์ (Cold War), ดาเนียล จิเมเนซ แคโค (The Promise), ฮวน พาโบล อุร์เรโก (Surviving Escobar) และ เอลกิน ดิแอซ

สวินตันรับบทเป็นชาวสวนกล้วยไม้ที่ได้ผูกมิตรกับนักโบราณคดีชาวฝรั่งเศสกับนักดนตรีหนุ่ม ขณะที่เธอไปเยี่ยมน้องสาวที่ป่วยอยู่ในโบโกตา แต่แล้วเธอก็ต้องรู้สึกไม่เป็นสุขไปกับเสียงรบกวนที่ดังตูมตามในตอนกลางคืนที่ทำให้เธอหลับไม่ลง

หนังยังไม่มีกำหนดฉายในบ้านเราในตอนนี้

มีรายงานจากประชาไท โดยอ้างอิงข่าวจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 63 อีกทีครับว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงวัฒนธรรมกับกระทรวงกลาโหมร่วมมือกันในการสร้างภาพยนตร์สารคดีประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับการสงครามของประเทศ เพื่อให้ประชาชนได้มีความรู้ในเชิงประวัติศาสตตร์ และส่งเสริมให้เกิดความรักชาติไปในตัว ซึ่งประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร เป็นผู้เปิดเผยเรื่องนี้

ในข่าวบอกด้วยว่าได้มีการประชุมและสรุปแนวทางแล้วออกมาเป็น 2 ระยะ โดยระยะแรกที่เป็นระยะเร่งด่วน จะมีการสร้างหนังออกมาอย่างน้อย 1 เรื่อง ใน 1 ปี ส่วนระยะต่อไปก็จะเป็นภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ครับ โดยนำเสนอเรื่องราวที่ให้ทั้งความบันเทิง ความรู้ด้านประวัติศาสตร์ สร้างความรักชาติ และเผยแพร่ไปยังตลาดต่างประเทศต่อไปเพื่อสร้างชื่อเสียงและรายได้เข้าประเทศ

สำหรับเหตุการณ์สงครามที่มีแผนจะสร้างเป็นหนังมีตั้งแต่ไทยในสงครามโลก 1 และ 2, สงครามเกาหลี สงครามเวียดนาม, วิกฤตการณ์ ร.ศ. 112, ยุทธนาวีเกาะช้าง, สมรภูมิบ้านร่วมเกล้า, สมรภูมิเขาค้อ เป็นต้น อ่านรายละเอียดทั้งหมดได้ที่ประชาไทครับ

หลังจากมีข่าวนี้ออกไป ความเห็นบนทวิตเตอร์จากเท่าที่เห็นนั้นออกไปในทางไม่เห็นด้วยเกือบทั้งหมดครับ แต่ขอยกความเห็นจากนักวิจารณ์หนัง “ผมอยู่ข้างหลังคุณ” มานำเสนอครับ ที่อธิบายได้ละเอียดและเข้าใจในแง่การสร้างภาพยนตร์ในปัจจุบันได้ดี ตามด้านล่างนี้

ไม่เพียงเน็ตฟลิกซ์ได้สร้างเนื้อหาภาคภาษาไทยอย่างซีรี่ส์ Stranded หรือ “เคว้ง” ออกมาแล้ว และกลายเป็นซีรี่ส์ของเน็ตฟลิกซ์ที่ผู้ชมในไทยดูมากที่สุด เน็ตฟลิกซ์ยังผลักดันโครงการที่จะสร้างบุคลากรเพื่อร่วมงานกับเน็ตฟลิกซ์ในการสร้างเนื้อหาใหม่ๆ ออกมาด้วยครับ ตามที่มีข่าวประชาสัมพันธ์ออกมา

อ้างอิงจากข่าวบนเฟซบุกของสมาคมผู้กกับภาพยนตร์ไทย เน็ตฟลิกซ์ได้จับมือกับกระทรวงวัฒนธรรมเพื่อคัดเลือกคนเขียนบทภาพยนตร์ร่วมอบรมเพิ่มทักษะปลายเดือนมีนาคมนี้ที่อเมริกา โดยโครงการดังกล่าวชื่อว่า Netflix Script-To-Screen ซึ่งจะจัดขึ้นที่นครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม – 1 เมษายน 2563 (รวมวันเดินทาง และมีการสนับสนุนค่าโดยสาร ค่าที่พัก และค่าวีซ่าให้ทั้งหมด)

ในประกาศบอกว่าต้องการนักเขียนบททั้งหมด 5 คน ครับ และต้องเป็นนักเขียนบทหนังที่มีประสบการณ์อย่างต่ำ 3 ปี และมีความสามารถด้านภาษาอังกฤษระดับปานกลางขึ้นไป หมดเขตรับสมัครวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ (ผมเพิ่งเห็นข่าววันนี้เอง หวังว่าจะไม่ช้าเกินไป)

ในการนี้ กระทรวงวัฒนธรรมขอประชาสัมพันธ์บุคคลที่สนใจเข้าร่วมโครงการ Netflix Script-To-Screen ที่มีคุณสมบัติตามที่บริษัท Netflix Asia-Pacific กำหนด โดยส่งใบสมัครพร้อมเอกสารประกอบเพื่อเข้าร่วมโครงการฯ ไปยังกลุ่มเลขานุการคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ภายในวันพฤหัสบดีที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓

โปรดศึกษารายละเอียดการสมัครเข้าร่วมโครงการฯ โดยละเอียด

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
กลุ่มเลขานุการคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม
เลขที่ ๑๐ อาคารวัฒนธรรมวิศิษฏ์ ชั้น ๔ ถนนเทียมร่วมมิตร แขวง/เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ๑๐๓๑๐
โทรศัพท์ ๐ ๒๒๐๙ ๓๕๑๙ โทรสาร ๐ ๒๒๐๙ ๓๕๒๒ อีเมล movie0204.1@gmail.com

Download เอกสารโครงการและใบสมัครได้ที่นี่

หรือสแกน QR Code ด้านล่างนี้

Low Season สุขต์สันวันโสด ผลงานเรื่องล่าสุดของผู้กำกับนฤบดี เวชกรรม จาก “สาระแนสิบล้อ” ดูเหมือนจะสร้างความสนุกให้ผู้ชมได้เกินความคาดหมาย ส่วนหนึ่งอาจเพราะผู้ชมบางส่วนมีความคาดหวังน้อยต่อหนังด้วย เมื่อวัดจากผลงานเก่าๆ แต่ก็ถือได้ว่าเป็นงานที่พัฒนาขึ้นของผู้กำกับครับ

ดูเหมือนว่าการแสดงของมาริโอ้ เมอเร่อ กับ พลอยไพลิน ตั้งประภาพร คือปัจจัยหลักที่ทำให้ผู้ชมชอบหนัง ได้รับคำชมในแง่การที่ทั้งคู่เล่นกันได้อย่างเข้าขาหรือเคมีเข้ากัน และในบางความเห็นแล้วบอกว่าเป็นตัวช่วยพยุงหนังไว้ด้วย ทำให้หนังเพลิดเพลินและสนุก ขณะที่ความเห็นด้านลบมักไปอยู่ที่ตัวบทที่ดูง่ายๆ ไม่มีอะไร และยังใช้ประโยชน์จากองค์ประกอบบางอย่างไม่คุ้มค่า คะแนนหนังมักอยู่ที่ 7-7.5 เป็นส่วนใหญ่ครับ

ตามรายงานของ Theaterist บอกว่า หนังเปิดตัวด้วยรายได้วันแรกเมื่อพฤหัสบดีที่ผ่านมา 2.47 ล้านบาท ทำให้กลายเป็นหนังไทยที่เปิดตัววันแรกสูงที่สุดของปีนี้จนถึงตอนนี้ แซงหนังไทยที่ฉายก่อนตั้งแต่อย่าง “ไทบ้านxBNK48 จากใจผู้สาวคนนี้” ที่เปิดตัววันแรกที่ 1.8 ล้านบาท กับ “Classic Again จดหมาย สายฝน ร่มวิเศษ” ที่เปิดตัววันแรก 4.4 แสนบาทครับ

เมื่อเทียบกับรายได้หนังทั้งหมดที่เปิดตัวตั้งแต่มกราคมก็ถือเป็นรายได้ที่สูงอยู่อันดับ 4 เป็นรอง Bad Boys for Life ที่อยู่อันดับ 3 ที่เปิดตัววันแรกไป 2.5 ล้านบาท ไม่กี่หมื่นบาทครับ ถ้ารายได้เป็นตัววัดความสนใจของผู้ชมได้ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีของหนัง

หนังเป็นเรื่องราวของหลิน (พลอยไพลิน ตั้งประภาพร) ที่กลายเป็นสาวโสดเพราะเห็นผี เธอจึงได้เดินทางไปกิ่วแม่ปานเมื่อรักษาแผลใจ ทั้งนี้เพราะเป็นที่ที่เธอเคยพบรักมาก่อนและคิดว่าการไปสถานที่ที่สร้างความรักให้เธอจะช่วยให้เธอลืมความรักได้ แล้วเธอก็ได้พบกับนักเขียนบทหนังชื่อพุธ (มาริโอ้ เมอเร่อ) ที่รักคุดและกำลังหาแรงบันดาลใจในการเขียนบทหนังผีเรื่องใหม่อยู่พอดี ทั้งคู่จึงได้ออกผจญภัยร่วมกันในช่วงที่ชีวิตรักกำลังตกต่ำทั้งคู่ และยังไปพบตัวละครรักคุดอีกหลายคนซึ่งรับบทโดยศกลรัตน์ วรอุไร, ณฉัตร จันทพันธ์, ศรีพรรณ ชื่นชมบูรณ์ และ อัครินทร์ อัครนิธิเมธรัฐ ครับ

เรายังไม่เคยนำตัวอย่างหนังมาให้ดู ก็แนะนำให้ดูพร้อมกันที่ด้านล่างนี้กับความเห็นบนทวิตเตอร์ครับ จากผู้ที่เราเชื่อใจ

ตัวละครนาค เณร และเด็กวัด ที่ได้นักแสดงหน้าตาน่าเอ็นดูมารับบท, ตัวละครกะเทยปากจัดและหื่นนิดๆ, บรรยากาศสยองขวัญในวัด, ผีหน้าตาน่ากลัวและเฮี้ยน และมุกตลก น่าจะถือว่าเป็นองค์ประกอบของหนัง “พี่นาค” ที่ทำให้หนังเรียกผู้ชมได้จนมีภาคต่อ ซึ่งจากตัวอย่างของ “พี่นาค 2” แล้วก็ดูเหมือนว่าจะยังคงองค์ประกอบทั้งหมดนี้เอาไว้หมด เพียงแต่ทวีคูณเข้าไปอีกครับ

เรื่องย่อทางการของหนังบอกว่า หลังจากบอลลูนกับเฟิร์ส (วิทวัส รัตนบุญบารมี กับ ภูริพรรธน์ เวชวงศาเตชาวัชร์) แอบสึกออกไป พร้อมกับตำนานความสยองอีกหนึ่งตำนานที่ยังหลงเหลืออยู่ ความวุ่นวายจึงกลับมาอีกครั้งเมื่อสองเพื่อนซี้เจอผีพี่นาคตัวใหม่ตามรังควาน จนต้องดิ้นรนกลับมาขอบวชใหม่อีกครั้ง และได้พบกับคุณโทมินจุน (พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร) โอปป้าเกาหลีที่มาขอบวชแก้บนด้วย ครั้งนี้พวกเขาจะล้างอาถรรพ์ห้ามสึกได้หรือไม่ แล้วคุณโทจะได้บวชแก้บนหรือเปล่า มาร่วมเอาใจช่วยพวกเขาในการล้างอาถรรพ์ความเฮี้ยนบทใหม่กันได้ใน “พี่นาค2”

หนังยังนักแสดงได้แก่วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์, คุณพัทธ์ พิเชษฐ์วรวุฒิ, อธิวัตน์ แสงเทียน โดยมีธามไท แพลงศิลป์ รับบทเป็นผีพี่นาคตนใหม่

หนังกำกับโดยไมค์ ภณธฤต โชติกฤษฎาโสภณ มีกำหนดฉาย 20 กุมภาพันธ์นี้

ใครที่ชอบพูดว่าหนังไทยมักมีแต่หนังผี หนังรัก และหนังตลก คงจะดีใจที่ได้เห็นหนังไทยเรื่องใหม่เรื่องนี้ Mother Gamer เกมเมอร์ เกมแม่ ของสหมงคลฟิล์มฯ ที่ไม่จัดอยู่ในหมวดทั้งสามอย่างนั้นครับ ซึ่งหนังได้ปล่อยตัวอย่างฉบับเต็มออกมาแล้ว พร้อมทั้งภาพนิ่ง และใบปิด

หนังมีส่วนผสมของหนังวัยรุ่น หนังความสัมพันธ์แม่กับลูกชาย หนังเทคโนโลยี และหนังบู๊ บอกเล่าเรื่องราวของแม่ที่เป็นครู ผู้ซึ่งไม่อยากให้ลูกเล่นวิดีโอเกมเพราะเธอมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่มีอนาคต และไม่อยากให้ลูกติดเกม แต่ปรากฏว่าลูกชายพบอนาคตในเกมได้ด้วยการกลายเป็นสมาชิกทีมอีสปอร์ตที่จะไม่แข่งขันชิงเงินรางวัลสูงที่อาจได้มากกว่าเงินเดือนของแม่อีก ทำให้ฝ่ายลูกชายไม่ยอมเชื่อฟังแม่ แม่จึงต้องกำราบด้วยการตั้งทีมอีสปอร์ตขึ้นมาเพื่อหาทางเอาชนะทีมของลูกให้ได้เพื่อให้เขากลับมาเชื่อฟังเธออีกครั้ง บางอย่างในตัวอย่างบอกเราว่า แม่อาจกลายเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตผู้เก่งกาจซะเองครับ

หนังนำแสดงโดยอ้อม พิยดา อัครเศรณี, เติร์ด ลภัส งามเชวง (เลือดข้นคนจาง), ตน ต้นหน ตันติเวชกุล (ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น), สุภวัจน์ ชวนรุ่งโรจน์, ณัฐชนน มณีน้อย, ธนบัตร งามกมลชัย และ วี วีรยา จาง (BNK48) กำกับโดยยรรยง คุรุอังกูร จาก App War แอปชนแอป และควบคุมการสร้างโดยจาตุศม เตชะรัตนประเสริฐ ครับ มีกำหนดฉาย 5 มีนาคมนี้

เอ็ม พิคเจอร์ส หนึ่งในผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายหนังรายใหญ่ของไทย ที่สร้างหนังไทยอย่าง “ขุนแผนฟ้าฟื้น” และ “คืนยุติธรรม” ที่กำลังจะเข้าฉายในปีนี้เป็นต้น ได้เปิดดครงการประกวดบทหนังชิงเงินรางวัล 3 แสนบาท พร้อมถ้วยรางวัล Popcorn Award เพื่อหวังขยายฐานการผลิตและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมหนังไทยครับ

ทางเอ็ม พิคเจอร์ส บอกด้วยว่า จะเฟ้นหาเนื้อเรื่องและนักเขียนบทเพียง 3 คน ที่จะเป็นผู้ชนะเลิศ (แบ่งกันคนละ 1 แสนบาท) บทหนังที่ต้องการคือบทที่สร้างความบันเทิงเพื่อคนหมู่มาก เนื้อหาต้องมีคติ แง่คิด หรือ เปิดโลกทรรศน์ใหม่ๆ หรือแสดงให้เห็นถึงคุณค่าต่อเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ประเด็นใดประเด็นหนึ่ง (Premise) โดยคุณสมบัติของผู้ที่จะส่งบทหนังประกวดนั้นไม่มีการจำกัดเพศ วัย หรืออาชีพครับ ทุกคนที่มีความสามารถส่งบทหนังมาได้หมด ส่วนแนวของหนังก็ไม่จำกัดเช่นกันครับ เป็นได้ทั้งรัก ตลก สยองขวัญ หรือแนวชีวิต เพียงส่งเนื้อเรื่องของคุณที่มีความยาว 3-5 หน้ากระดาษ A4 พร้อมกับใบสมัคร โดยกรอกแบบฟอร์มได้ที่นี่ครับ ภายในวันที่ 20 มีนาคม 2563 นี้

รายละเอียดเต็มๆ ของการประกวด เช่นการคัดเลือกมีกี่รอบ, เกณฑ์การตัดสิน และอื่นๆ อ่านได้ที่ลิงก์นี้ครับ นอกจากนี้ ทางโครงการยังเปิดเฟซบุกสำหรับบอกความคืบหน้าของการประกวดและแนวความคิดต่างๆ ในการเขียนบทด้วย ชื่อว่า “เดี๋ยวก็ได้เรื่อง” ครับ

ชมรมวิจารณ์บันเทิงซึ่งมีนคร วีระประวัติ เป็นประธาน และมียิ่งศักดิ์ โควสุรัตน์ หรือ “อีแร้ง” เป็นประธานคณะทำงานได้ประกาศรายชื่อผู้เข้าชิงประจำปี 2562 หรือครั้งที่ 28 ออกมาเมื่อเช้านี้ครับ ซึ่งหนัง “ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ” ของผู้กำกับนวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ กับ “Where We Belong ที่ตรงนั้น มีฉันหรือเปล่า” ของผู้กำกับคงเดช จาตุรันต์รัศมี เข้าชิงมากที่สุด 11 ผู้เข้าชิงครับ ตามมาด้วย “ดิว ไปด้วยกันนะ” ที่ 9 ผู้เข้าชิง, “แสงกระสือ” ที่ 8 ผู้เข้าชิง”, “หน้าฮ่าน” ที่ 7 ผู้เข้าชิง และ “กระเบนราหู” ที่ 6 ผู้เข้าชิงตามลำดับ จากจำนวนหนังไทยที่ผ่านเกณฑ์ผู้เข้าชิงจำนวน 53 เรื่อง ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่เข้าฉายระหว่างปี 2562 ทั้งหมด

ปีนี้ ชมรมวิจารณ์บันเทิงได้เพิ่มรางวัลหนังสั้นด้วยครับ ซึ่งดีมากๆ เพราะเป็นการสนับสนุนนักทำหนังรุ่นใหม่ให้เป็นที่รู้จัก ได้มีโอกาสเติบโตในวงการและสร้างหนังดีๆ ให้เราได้ชมกันต่อไป

ด้านล่างนี้คือรายชื่อผู้เข้าชิงทั้งหมดที่จะมีการประกาศรายชื่อกันในวันพุธที่ 18 มีนาคม โดยจะทำพิธีประกาศรางวัลกันที่ห้องมัฆวานรังสรรค์ สโมสรทหารบก เวลา 18.00 น.

ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

• “Manta Ray กระเบนราหู” – อำนวยการสร้างโดย วิทวัส เมฆสวรรค์, จักรวาล นิลธำรงค์, ชาติชาย ไชยยนต์, ฟิลลิป อาวริล (ไดเวอร์ชั่น, มิท เอาท์ ซาวด์ ฟิล์ม, เลส์ ฟิล์มส์ เดอ เลทรองเชร์, ยูคู พิคเจอร์ส, ภูรินทร์ พิคเจอร์ส)
• “Where We Belong ที่ตรงนั้น มีฉันหรือเปล่า” – อำนวยการสร้างโดย โสฬส สุขุม, ชาลิต บุนนาค (บีเอ็นเคโฟร์ตีเอต ฟิล์ม, สไลเดอร์ แคท, ซอง ซาวด์ โปรดักชัน)
• “ดิว ไปด้วยกันนะ” – อำนวยการสร้างโดย โยนู ชเว (ซีเจ เมเจอร์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์, คำม่วน-แฮปปี ฮับ เอ็นเตอร์เทนเมนท์)
• “หน่าฮ่าน” – อำนวยการสร้างโดย จินนะ คงมา, พัชร เอี่ยมตระกูล, เอกภพ ไป๋อารีย์, นคร โพธิ์ไพโรจน์, เอกวิชช์ ชัยรัฐบริบูรณ์ (มูฟวี พาร์ทเนอร์, ด๊อนท์ แพนิก บีเคเค, วีเอส เซอร์วิส)
• “ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ” – อำนวยการสร้างโดย นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ (จีดีเอช ห้าห้าเก้า, เวรี่ แซด พิคเจอร์ส, แฮปปี้ เอนดิ้ง ฟิล์ม)

ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

• พุทธิพงษ์ อรุณเพ็ง – Manta Ray กระเบนราหู
• นนทวัฒน์ นำเบญจพล – Soil without Land ดินไร้แดน
• คงเดช จาตุรันต์รัศมี – Where We Belong ที่ตรงนั้น มีฉันหรือเปล่า
• นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ – ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ
• ฉันทนา ทิพย์ประชาติ – หน่าฮ่าน

นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม

• ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ – โปรเม อัจฉริยะ/ต้?ง/สร้าง
• บุญฤทธิ์ เวียงนนท์ – หน่าฮ่าน
• ศดานนท์ ดุรงคเวโรจน์ – ดิว ไปด้วยกันนะ
• ศุกลวัฒน์ คณารศ – ดิว ไปด้วยกันนะ
• โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์ – แสงกระสือ

นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม

• เจนนิษฐ์ โอ่ประเสริฐ – Where We Belong ที่ตรงนั้น มีฉันหรือเปล่า
• ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง – ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ
• พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ – Friend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน
• ภัณฑิรา พิพิธยากร – แสงกระสือ
• สุดารัตน์ โพธิ์อำพล – หน่าฮ่าน

นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม

• ขจรศักดิ์ รัตนนิสสัย – Where We Belong ที่ตรงนั้น มีฉันหรือเปล่า
• จิรายุ ตันตระกูล – จอมขมังเวทย์ 2020
• ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ – ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ
• ภวัต จิตต์สว่างดี – ดิว ไปด้วยกันนะ
• สพล อัศวมั่นคง – แสงกระสือ

นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม

• ดริสา การพจน์ – ดิว ไปด้วยกันนะ
• แพรวา สุธรรมพงษ์ – Where We Belong ที่ตรงนั้น มีฉันหรือเปล่า
• ษริกา สารทศิลป์ศุภา – ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ
• อัจฉรียา โพธิพิพิธธนากร – โปรเม อัจฉริยะ/ต้?ง/สร้าง
• อาภาศิริ จันทรัศมี – ดิว ไปด้วยกันนะ

บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

• Where We Belong ที่ตรงนั้น มีฉันหรือเปล่า – คงเดช จาตุรันต์รัศมี
• ดิว ไปด้วยกันนะ – ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล, สรวิชญ์ เมืองแก้ว
• แสงกระสือ – ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล, สิทธิศิริ มงคลศิริ
• หน่าฮ่าน – ฉันทนา ทิพย์ประชาติ, นคร โพธิ์ไพโรจน์
• ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ – นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์

กำกับภาพยอดเยี่ยม

• Manta Ray กระเบนราหู – นวโรภาส รุ่งพิบูลโสภิษฐ์
• Soil without Land ดินไร้แดน – นนทวัฒน์ นำเบญจพล
• Where We Belong ที่ตรงนั้น มีฉันหรือเปล่า – ม.ร.ว.อัมพรพล ยุคล
• แสงกระสือ – ภิไธย สมิตสุต
• ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ – นิรมล รอสส์

ลำดับภาพยอดเยี่ยม

• Manta Ray กระเบนราหู – ลี ชาตะเมธีกุล, หรินทร์ แพทรงไทย
• Soil without Land ดินไร้แดน – เอกพงษ์ สราญเศรษฐ์, นนทวัฒน์ นำเบญจพล
• Where We Belong ที่ตรงนั้น มีฉันหรือเปล่า – ลี ชาตะเมธีกุล, หรินทร์ แพทรงไทย
• แสงกระสือ – มานุสส วรสิงห์, อภิสิทธิ์ ว่องไวตระการ
• ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ – ชลสิทธิ์ อุปนิกขิต

ออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม

• Manta Ray กระเบนราหู – ออกแบบงานสร้างโดย ศราวุธ แก้วน้ำเย็น; กำกับศิลป์โดย กฤษดา นาเมือง
• Where We Belong ที่ตรงนั้น มีฉันหรือเปล่า – ออกแบบงานสร้างโดย ราสิเกติ์ สุขกาล; กำกับศิลป์โดย มานพ แจ้งสว่าง
• ขุนแผน ฟ้าฟื้น – ออกแบบงานสร้างโดย พิษณุ วริรักษ์, ชาติชาย ไชยยนต์, สาธิต ประดิษฐสาร; กำกับศิลป์โดย ธีระชาติ พงศ์วิไล, สิปปวิชญ์ สกุลนิพัทธ์, เขมกร โสนน้อย
• แสงกระสือ – ออกแบบงานสร้างโดย สุดเขตร ล้วนเจริญ; กำกับศิลป์โดย ศราวุธ แก้วน้ำเย็น
• ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ – ออกแบบงานสร้างโดย พัชรนันต์ ตาลานนท์; กำกับศิลป์โดย ชลชาติ สุวรรณพฤกษ์

ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม

• Manta Ray กระเบนราหู – คริสตีน ออทท์, มาธิเออ กาบรี้ (Snowdrops)
• Where We Belong ที่ตรงนั้น มีฉันหรือเปล่า – ธนชัย อุชชิน
• ดิว ไปด้วยกันนะ – ชัพวิชญ์ เต็มนิธิกุล
• แสงกระสือ – ชาติชาย พงษ์ประภาพันธ์
• ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ – ใจเทพ ร่าเริงใจ

เพลงจากภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

• “Let U Go” – Where We Belong ที่ตรงนั้น มีฉันหรือเปล่า (ประพันธ์โดย คงเดช จาตุรันต์รัศมี, เจตมนต์ มละโยธา)
• “ต่อชีวิตอ้ายแหน่” – หน่าฮ่าน (ประพันธ์โดย แม็คกี้ ฤทธิศร)
• “ทิ้งแต่เก็บ” – ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ (ประพันธ์โดย ธันวา บุญสูงเนิน)
• “รุ้ง” – ดิว ไปด้วยกันนะ (ประพันธ์โดย ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล)
• “หน่าฮ่าน บ่ย่านอาย” – หน่าฮ่าน (ประพันธ์โดย นริศ อรัญรุตม์, สมพร รัตนไพร)

นักทำหนังหน้าใหม่ยอดเยี่ยม (Young Filmmaker Award)

• พุทธิพงษ์ อรุณเพ็ง – Manta Ray กระเบนราหู
• พวงสร้อย อักษรสว่าง – นคร-สวรรค์
• อชิตพนธิ์ เพียรสุขประเสริฐ – ปรัมปรากากี
• ธนวัฒน์ เอี่ยมจินดา – โปรเม อัจฉริยะ/ต้?ง/สร้าง
• สิทธิศิริ มงคลศิริ – แสงกระสือ
• ฉันทนา ทิพย์ประชาติ – หน่าฮ่าน

:: หมายเหตุ :: สิทธิศิริ มงคลศิริ เคยมีผลงานกำกับภาพยนตร์ “Last Summer ฤดูร้อนนั้น ฉันตาย” ซึ่งเป็นภาพยนตร์สั้น-สามตอน ดังนั้น ผลงานภาพยนตร์ “แสงกระสือ” กรรมการได้พิจารณาเป็นการกำกับภาพยนตร์ขนาดยาวเรื่องแรก จึงมีสิทธิ์ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในสาขารางวัลนี้

ภาพยนตร์สั้นยอดเยี่ยม ระดับบุคคลทั่วไป

• Hush, Tonight the Dead Are Dreaming Loudly – ก้อง พาหุรักษ์
• Song X – ปฐมพล เทศประทีป
• กำเนิดหอยทากทอง (Birth of Golden Snail) – จุฬญาณนนท์ ศิริผล
• ชิงช้าสวรรค์ (Ferris Wheel) – พุทธิพงษ์ อรุณเพ็ง
• เพื่อนเล่น เล่นเพื่อน (Friend with Benefits, without Benefits) – สรยศ ประภาพันธ์
• ระบาดพันธนาการ (Obligation Disorder) – จักรพันธ์ ศรีวิชัย
• ร่างทนทาน (Enduring Body) – อุกฤษณ์ สงวนให้

ภาพยนตร์สั้นยอดเยี่ยม ระดับนักเรียน-นักศึกษา

• Blue Summer Rain – ภัทริน เชาว์พานิช
• I’m Not Your F***ing Stereotype – ฮีซัมร์ เจ๊ะมามะ
• Late Night, Early Dawn (ดาวทะเล) – นิรันดร์ สำเภาแก้ว
• จาโบ้วเกี้ย (Daughter) – กุลภัทร กล้าธนกาญจน์
• พญาวัน – ศุภามาศ บุญนิล
• เมื่อหนึ่งแล้วจึงสาม (When One and Then Three) – ธัญวรัตม์ สมบัติวัฒนา
• โรงเลียน (Happy Script) – กมลลักษณ์ จิรหิตะภัทร

ภาพยนตร์สารคดีสั้นยอดเยี่ยม

• My Echo, My Shadow and Me – วรรณธนภูมิ ลายสุวรรณชัย
• Only You (บ้านของแม่) – วสุนันท์ หุตเวช
• Space of Refuge – นวลขนิษฐ์ พรหมจรรยา
• ก่อนกาล (The Reminiscence of Forsaken Place) – อภิวันทน์ จรินยากุลวัฒน์
• ไกลบ้าน (Away) – ธีรพันธ์ เงาจีนานันต์
• หมายเลขคดีแดง – เสฏฐวุฒิ เมืองแก้ว, ณัฐพล ต. รุ่งเรือง, ปรินทร์ จริยาสิริสุข, พีรพัฒน์ รักงาม, วิศรุต ศรีพุธสมบูรณ์
• หมาล่าเนื้อ (The Hunting Dogs) – จิรเมธ โง้วศิริ

ภาพยนตร์ไทยทำเงินสูงสุดในรอบปี 2562
– ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะเฟค
รางวัลเกียรติคุณแห่งความสำเร็จ (Lifetime Achievement Award)
– น้ำเงิน บุญหนัก